1.ความหมายของเทศโนโลยีสารสนเทศ
เทศโนโลยี (Technology)การนำความรู้หรือวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ในการพัฒนาเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ หรือสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้
สารสนเทศ (Information)
ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความคิดเห็น หรือประสบการณ์ ที่ผ่านกระบวนการประมวลผลอย่างมีระบบ
การสื่อสาร (Communication)
การส่งข้อมูลข่าวสารโดยอาสัยสื่อตัวกลาง จากบุคคล หรือสถานที่หนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งหรือสถานที่หนึ่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับสารมีปฏิกิริยาตอบสนองให้เป็นไปตามผผู้ส่งสารต้องการ
เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT)
การนำความรู้ หรือวิทยาการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เพื่อจัดเก็บข้อมูลสาระสนเทศอย่างเป็นระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT)
การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม เพื่อผลิต เผยแพร่ และจัดเก็บสื่อสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ
2.ระบบสารสนเทศ (Information System)
เป็นระบบที่ช่วยในการรวบรวม จัดเก็บ และจัดการกับข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย 5 ส่วนสำคัญ1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
เป็นเครื่องมือที่ใช้จัดการกับสารสนเทศ ที่เป็นทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆิ ก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบสารสนเทศ เนื่องจากสามารถทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
2.ซอฟต์แวร์ (Software)
เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่สั่งให้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ทำงานตามคำสั่งของผู้ใช้ ภายใต้ขอบเขตของคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมนั้นๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ
-ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
เป็นชุดคำสั่งที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นการทำงานต่างๆได้
-ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
เป็นชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นเพื่อประยุกต์ใช้กับงานตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน ตัวอย่างซอฟต์แวร์ประยุกต์ เช่น Format Factory Adobe Dreamweaver Winamp เป็นต้น
ตัวอย่างซอฟต์แสร์ประยุกต์
Wimamp
เป็นซอฟต์แวร์ มีเดียร์เพลเยอร์ เขียนโดยนูลซอฟต์ ปัจจุบันเป็นของเอโอแอล
วินแอมป์ออกครั้งแรกโดย จัสติน แฟรงเคิล ในปี 1997
3.ข้อมูล (Data)
ข้อมูลที่ดีจะต้องมีความสมบูรณ์ ถูกต้อง แม่นยำ และเชื่อถือได้ โดยรวบรวม และป้อนเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยอุปกรณ์รับข้อมูลต่างๆ
4.บุคลากร (People)
จะต้องมีความรู้และความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์ โดยแบ่งออกเป็นผู้พัฒนา และผู้ใช้ระบบสารสนเทศ ซึ่งผู้พัฒนาจะต้องพัฒนาระบบสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้ตามความต้องการ
5.ขั้นตอนการปฏิบัติงาน (Procedure)
ผู้ใช้งานจะต้องปฏิบัติตามระเบียบและวิธีการการปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติงาน (User manual) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพ
3.ประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
1.ด้านการศึกษาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารงานการศึกษาเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ และยังเป็นเครื่องมือเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา และเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอน
2.ด้านการจัดเก็บรวบรวใข้อมูล
ข้อมูลจำนวนมากได้ถูกรวบรวมและบันทึกไว้ในรูปของสื่อบันทึกข้อมูลประเภทต่างๆ ซึ่งสามารถเก็บรวบรวมเอกสารหรือหนังสือต่างๆ ทั้งหมดไว้และนำข้อมูลกลับมาใช้ได้ตลอดเวลา
3.ด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม
การสื่อสารแบบไร้สายเข้ามามีส่วนสำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว
4.ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การวิจัยและการทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เทคโนโลยี และการสื่อสารทั้งสิ้น
5.ด้านความบันเทิง
รูปแบบการนำเสนอที่ตอบสนองความต้องการทั้งภาพและเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพประกอบเข้ากับการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่สะดวกและรวดเร็ว จึงทำให้ได้รับความนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
4.แนวโน้มการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
-เทคโนโลยีแบบไร้สายทำให้เกิดการติดต่อสื่อสารระหว่างหันมีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น-มีการใช้ระบบเสมืองจริงผ่านเครือข่านอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม
-อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะมีขนาดกะทัดรัดและราคาถูก แต่มีประสิทธิภาพสูง และมีการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
-การวางแผน การคิดวิเคราะห์และการตัดสินใจของมนุษย์จะถูกแทนที่โดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจ
-การเข้าถึงข้อมูลที่งาน สะดวก และรวดเร็ว ทำให้มีช่องทางการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมต่างๆเพิ่มมากขึ้น
-หน่วยงานหรือองค์กรจะมีขนาดเล็กลง และจะปรับเปลี่ยนลักษณะของการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายระหว่างหน่วยงานย่อยๆ เพิ่มมากขึ้น
5.ผลกระทบจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
-พฤติกรรมเลียนแบบจากเกมที่ใช้ความรุนแรง อาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมได้-การใช้ชีวิตของสังคมเมืองเปลี่ยนไป ทำให้การพบปะผู้คนลงน้อยลง
-การเข้าถึงข้อมูลบนระบบเครือข่ายที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ทำให้เกิดช่องทางการโจรกรรมเพิ่มมากขึ้น
-เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้การผลิตของผิดกฎหมาย และละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น
-การส่งต่อของข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางต่างๆบนระบบเครือข่าย อาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้
-เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
6.อาชีพที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
-นักเขียนโปรแกรม หรือโปรแกรมเมอร์ (Programmer) มำหน้าที่เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้ทำงานได้ตามความต้องการ-นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) ทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และพัฒนาระบบสารสนเทศ โดยออกแบบให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน
-ผู้ดูแลและบริหารระบบฐานข้อมูล (Database Administrator) ทำหน้าที่บริหารจัดการฐานข้อมูล ดูแลความปลอดภัย ประสานงาน และตรวจสอบการใช้งาน
-ผู้ดูและบริหารระบบเครือข่าย (Network Administrator) ทำหน้าที่บริหารจัดการระบบเครือข่าย และดูแลความปลอดภัยระบบเครือข่าย๓ายในองค์กร
-เจ้าหน้าที่เทคนิค (Technician) ทำหน้าที่ดูแลรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น